ชิปปิ้ง ธุรกิจนำเข้าสินค้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบนำเข้าสินค้า ปัจจุบัน คงไม่มีสิ่งใดที่จะสำคัญไปกว่าการได้ราคาสินค้าที่เทียบเท่ากับต้นทุนหรือต่ำกว่าทุน เพื่อที่เมื่อนำมาขายต่อ จะได้กำไรงามๆ
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใด สินค้าจากจีน จึงกลายเป็นแหล่งที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจและนำเข้ามาจำหน่ายต่ออย่างแพร่หลาย ซึ่งการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศในยุคนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป เมื่อเลือกใช้บริการกับบริษัทชิปปิ้งหรือบริษัทที่ให้บริการขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมาไทย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ Max Logistics มีข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการนำเข้าสินค้าทางบกมาฝากสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าจีนเป็นจำนวนมาก
สำหรับข้อดีของการนำเข้าสินค้าทางบกหรือทางรถบรรทุกนั้น มีความสะดวกรวดเร็วกว่าวิธีขนส่งทางเรืออยู่มาก อาทิ Max Logistics ให้บริการขนส่งทางรถจากจีนมาไทย ใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 วัน ต่างจากทางเรือที่ใช้ระยะเวลานานกว่าเกือบ 15-30 วัน และต่อไปนี้คือขั้นตอนของการนำเข้าสินค้าทางบกแบบ Step by Step
1. ติดต่อกับโรงงานผู้ผลิตสินค้า
จุดแรกของขั้นตอนขนส่งสินค้า ต้องเริ่มจากผู้ขายหรือผู้ผลิตเป็นอันดับแรก ผู้ประกอบการอาจลงทุนบินไปคุยกับคู่ค้าในประเทศจีนเพื่อขอดูคุณภาพสินค้าหรือบินไปเลือกสินค้าด้วยตัวเองก่อน เพื่อนำสินค้าของแต่ละร้านมาเปรียบเทียบกัน จากนั้น จึงประสานงานเรื่องการดำเนินการขนส่ง ซึ่งในขั้นตอนนี้ ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้บริการชิปปิ้ง เพื่อทำหน้าที่ติดต่อและประสานงานเรื่องการขนส่งสินค้าจากโรงงานมายังโกดังของบริษัทชิปปิ้ง
2. ชิปปิ้งดำเนินพิธีการศุลกากรขาออก
บริษัทชิปปิ้งในปัจจุบัน มีขั้นตอนที่ช่วยดำเนินพิธีการศุลกากรให้ครบถ้วนและถูกต้อง ไม่ต้องเสียภาษีเอง ไม่ต้องดำเนินการเรื่องเอกสารเอง เนื่องจากบริษัทชิปปิ้งจะเป็นผู้ดำเนินการแทนผู้นำเข้าตัวจริง โดยก่อนที่จะส่งสินค้าออกนอกประเทศต้นทางได้นั้น จะต้องมีการแสดงรายการสินค้าต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรก่อนว่า มีสินค้าอะไรที่กำลังจะนำออกจากประเทศนั้นๆ โดยปกติ ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไม่นานนัก หากไม่พบปัญหาอะไรให้ต้องแก้ไขเพิ่มเติม
3. จัดเตรียมเอกสารสำหรับการนำเข้า
ปัจจุบัน การดำเนินการเรื่องเอกสารนำเข้ากับทางกรมศุลกากรนั้นจะใช้ระบบดิจิตอลทั้งหมดหรือที่เรียกว่าโปรแกรม E-Paperless ทั้งการบันทึกข้อมูลพร้อมลงลายมือชื่อในโปรแกรมเพื่อส่งต่อไปยังระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากร สำหรับเอกสารที่จำเป็นต้องยื่น ประกอบด้วย ใบขนสินค้าขาเข้า บัญชีราคาสินค้า บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการนำเข้า ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าหรือใบ Form E ตลอดจนเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น แคตตาล็อก ฯลฯ
4.เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า
หากศุลกากรได้รับข้อมูลที่บันทึกในระบบเป็นที่เรียบร้อย จะมีการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นในใบขนสินค้า ซึ่งประกอบด้วย ชื่อ ที่อยู่ผู้นำเข้า เลขประจำตัวของผู้เสียภาษี พิกัดอัตราศุลกากร และราคาของสินค้า ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ทางศุลกากรจะแจ้งกลับมายังผู้นำเข้าเพื่อทำการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง และส่งข้อมูลที่ได้รับการแก้ไขใหม่กลับไปที่ศุลกากรอีกครั้ง ขั้นตอนนี้เองสามารถเกิดขึ้นได้หลายครั้ง หากข้อมูลนั้นยังผิดพลาดอยู่ แต่เมื่อข้อมูลทั้งหมดถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ศุลกากรจะออกเลขที่ใบขนสินค้าให้
5.ตรวจสอบพิสูจน์ตามเงื่อนไขชำระภาษีอากรขาเข้า
เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจะทำการตรวจสอบข้อมูลสินค้าอย่างละเอียดตามเงื่อนไขที่ทางกรมศุลกากรกำหนด โดยจะแบ่งสินค้าออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
- ใบขนสินค้าขาเข้าประเภทไม่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Green Line) โดยสินค้าประเภทนี้ ผู้นำเข้าต้องนำใบขนสินค้าขาเข้าไปชำระภาษีอากรและสามารถวางประกันที่เกี่ยวข้องได้ทันที
- ใบขนสินค้าขาเข้าประเภทที่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Red Line) สำหรับสินค้าประเภทนี้ ผู้นำเข้าจะต้องนำใบขนสินค้าขาเข้าไปติดต่อกับหน่วยงานประเมินอากรของที่นำเข้านั้นๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสินค้าแบบ Green Line
ในปัจจุบัน ผู้นำเข้าสามารถชำระภาษีได้ 3 วิธี คือ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร และ กรมศุลกากร
6.การตรวจสอบและการปล่อยสินค้า
เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อตรวจสอบก่อนปล่อยสินค้าออกจากอารักขาของศุลกากร ดังนั้น บริษัทชิปปิ้งจะทำการยื่นใบขนสินค้าพร้อมใบเสร็จรับเงินที่ชำระเรียบร้อยแล้วให้กับคลังสินค้า ขั้นตอนนี้เองข้อมูลของสินค้าจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง สินค้าดังกล่าวจะต้องผ่านการตรวจสอบหรือยกเว้นการตรวจ ในกรณีเป็นใบขนสินค้ายกเว้นการตรวจ (Green Line) จะใช้เวลาตรวจสอบน้อยมาก หากเป็นกรณีสินค้าต้องผ่านการตรวจสอบพิธีการขนส่งทางบก จะมีการเคลื่อนย้ายสินค้าเพื่อตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรก่อนปล่อยสินค้าออกจากอารักขาศุลกากร
7.การขนส่งไปยังผู้รับ
เมื่อสินค้าได้ถูกตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะถูกเตรียมขนส่งไปยังผู้รับโดยบริษัทชิปปิ้งขนลำเลียงสินค้าขึ้นบนรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อเตรียมจัดส่งถึงหน้าบ้านลูกค้า
อย่างไรก็ตาม เพื่อความสะดวกรวดเร็วในขั้นตอนการนำเข้าสินค้า ควรเลือกบริษัทชิปปิ้งที่เป็นมืออาชีพ เชื่อถือได้ และมีประสบการณ์การนำเข้าสินค้าที่ยาวนาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผิดพลาดในขั้นตอนการทำงาน