1. การรักษาหน้า หมายถึง การกระทำที่อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียสถานะทางสังคม และชื่อเสียงของบุคคล การเจรจาทางธุรกิจกับชาวจีนโดยเฉพาะหากมีคู่ค้าหลายคน จึงควรให้ความเคารพ ให้เกียรติ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคล โดยเฉพาะกับผู้ที่อาวุโสกว่า

2. เตรียมสิ่งพิมพ์สำหรับการนำเสนอธุรกิจ เอกสารที่คุณจะเตรียมไปเสนอในที่ประชุมกับคู่ค้า ควรใช้กระดาษธรรมดาสีดำแบบพรีเมี่ยม และใช้ตัวพิมพ์สีขาว ซึ่งในประเทศจีนให้ความสำคัญกับเรื่องของสีและความหมายที่แตกต่างกันมากกว่าทางตะวันตก ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยง เอกสารประกอบคำบรรยาย รวมทั้งนามบัตร ควรมีเวอร์ชั่นภาษาจีนด้วย นอกจากนี้ ควรมีสำเนาสิ่งพิมพ์เผื่อไว้เสมอ

3. เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประชุม ชาวจีนมักจะให้ความสำคัญกับรายละเอียดเป็นอย่างมาก ดังนั้น พวกเขาจะศึกษาเกี่ยวกับบริษัทของคุณและคาดหวังให้คุณทำสิ่งเดียวกันกับพวกเขา รวมไปถึง การกำหนดวันประชุม ไม่ควรนัดหมายในวันสำคัญของชาวจีน นอกจากนี้ ควรส่งข้อกำหนดสำหรับการประชุมให้กับคู่ค้าเพื่อให้เวลาศึกษาข้อมูลล่วงหน้า

4. ให้ของกำนัลเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ทางตะวันตกนิยมมอบของขวัญให้กับเพื่อนและครอบครัวที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันในโอกาสพิเศษ แต่ในประเทศจีน การให้ของขวัญเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนหรือคู่ค้าทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับชาวจีน ผู้คนสามารถมอบของขวัญให้กับเพื่อนร่วมงาน และพันธมิตรทางธุรกิจได้เสมอ อาทิ กระเป๋าสตางค์ นาฬิกา ฯลฯ

5. สร้างความเป็นมิตรด้วยการพูดคุยเล็กน้อย คนจีนมักทำธุรกิจหรือร่วมมือกับคนที่พวกเขารู้จักและไว้วางใจ ดังนั้น แม้แต่ศิลปะการพูดคุยเล็กๆ ก่อนการประชุมก็ถือว่ามีความสำคัญ รวมไปถึงการถามไถ่สารทุุกข์สุกดิบ โดยหัวข้อการพูดคุยสนทนาควรเป็นเรื่องทั่วๆ ไป รวมถึงเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมจีน ศิลปะ ประวัติศาสตร์ สภาพอากาศ และหัวข้อส่วนตัวหรือครอบครัว ฯลฯ

6. ศึกษาวิธีการสื่อสารแบบชาวจีน ในการหารือทางธุรกิจ ไม่ควรใช้คำว่า ‘ไม่’ ในการอภิปราย ควรใช้วลี เช่น “ฉันจะต้องใช้เวลาคิดให้มากกว่านี้” เมื่อคนจีนพูดบางอย่าง เช่น “ไม่เป็นไร“ หรือ “ไม่เป็นปัญหา” พวกเขามักจะหมายถึงตรงกันข้าม นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงหัวข้อที่ถกเถียง เช่น การเมือง เนื่องจากเป็นเรื่องอ่อนไหว และความคิดแบบตะวันตกมักจะตรงกันข้ามกับความคิดของสังคมจีน

7. หลีกเลี่ยงการใช้มือชี้ การสัมผัสร่างกาย และเสียงรบกวนที่ไม่จำเป็น คนจีนไม่ใช้มือประกอบการพูด ดังนั้น แทนที่จะใช้นิ้วชี้ ให้ใช้ฝ่ามือเปิด และหลีกเลี่ยงการใช้มือใส่ในปาก ถือว่าเป็นท่าทางที่หยาบคาย อีกทั้ง คนจีนไม่นิยมการสัมผัสทางร่างกาย เช่น ตบหลัง หรือสัมผัสแขน รวมไปถึงพฤติกรรมที่จะส่งเสียง ดัง เช่น การดีดนิ้ว และผิวปาก

8. เทคนิคแลกเปลี่ยนนามบัตร การให้นามบัตรในการทำธุรกิจในประเทศจีนไม่ต่างจากในตะวันตก ชาวจีนจะใช้มือทั้งสองข้างเพื่อมอบนามบัตรให้กับผู้ที่มีอันดับสูงสุดก่อนเสมอ และตามธรรมเนียมปฏิบัติ คุณควรดูนามบัตรที่ได้รับอย่างสุภาพก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าเอกสาร (ไม่ควรใช้กระเป๋าเงิน) และควรให้นามบัตรของคุณที่มีเวอร์ชั่นภาษาจีนกับคู่ค้า ควรระบุชื่อและอาชีพไว้ให้ชัดเจน

9. ผูกมิตรความสัมพันธ์ในระยะยาว นักธุรกิจจีนมักใช้ความพยายามเป็นพิเศษสำหรับแขกหรือคู่ค้าทางธุรกิจ พวกเขาคาดหวังถึงความสัมพันธ์ระยะยาว ดังนั้น หากคิดจะผูกมิตรหรือทำธุรกิจกับชาวจีนให้ยืนยาว คุณต้องรักษาคำพูดและคำสัญญาอยู่เสมอ เช่น หากให้คำมั่นว่าจะติดต่อกับพวกเขาหรือพบกันเร็วๆนี้ อย่าลืมทำตามที่พูด ไม่เช่นนั้นชาวจีนสามารถตัดความสัมพันธ์ที่คุณสร้างขึ้นได้ง่ายๆ เลยทีเดียว

10. มารยาทบนโต๊ะอาหาร หากคุณต้องเข้าร่วมกิจกรรมหรือต้องไปรับประทานมื้อค่ำเพื่อเจรจาทางธุรกิจ นำเข้าสินค้าจากจีน หรือการลงทุนต่างๆ เป็นเรื่องดีที่คุณจะศึกษาถึงประเพณีหรือธรรมเนียมปฏิบัติบางอย่างก่อนถึงวันนัด เช่น ควรลิ้มรสอาหารแต่ละจาน และทิ้งอาหารไว้บนจานเพียงเล็กน้อย มิฉะนั้นพวกเขาอาจคิดได้ว่าคุณหิวโซมา และอย่าลืมเอ่ยปากขอบคุณชาวจีนก่อนลา เพื่อสร้างความประทับใจและสัมพันธภาพของการเป็นหุ้นส่วนกันในระยะยาว

ที่มาข้อมูล : https://www.shiplilly.com/