Shippingจีน หมดยุคฐานการผลิตราคาถูกในจีน จริงหรือไม่ ?

Shippingจีน หมดยุดฐานการผลิตราคาถูกในจีน จริงหรือไม่ ? - maxlogistics shippingจีน Shippingจีน หมดยุคฐานการผลิตราคาถูกในจีน จริงหรือไม่ ?                    768x402

Shippingจีน ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ผู้ประกอบการร้านค้า มักจะคุ้นเคยกับแนวคิดที่ว่า การผลิตในประเทศจีนนั้น มีต้นทุนที่ต่ำกว่าในสหรัฐอเมริกาหรืออีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งความเชื่อดังกล่าวก็กลายเป็นที่นิยมกันเรื่อยมา โดยเฉพาะในหมู่ผู้ขายสินค้า ที่สั่งผลิตสินค้าในชื่อแบรนด์ของตัวเองหรือ Private Label  

มากกว่า 23% ในปี 2556 ฐานของการผลิตสินค้าทั่วโลกมักตั้งอยู่ในประเทศจีน หากเมื่อเวลาผ่านไป หลายสิ่งก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ค่าจ้างของแรงงานจีนเริ่มพุ่งสูงขึ้นราว 187% หรือประมาณ 27 $ ต่อวัน (865 บาท) ทำให้ส่งผลกระทบต่อราคาสำหรับการผลิตสินค้า อย่างไรก็ดี ชาวจีนนั้น ได้ชื่อว่าเป็นชาติที่มีการผลิตสินค้าคุณภาพสูง และเป็นที่ดึงดูดของบริษัทต่างชาติมากมาย

Max Logistics รวบรวมข้อมูลเพื่อค้นหาคำตอบที่ว่า จีนเป็นซัพพลายเออร์หรือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการในยุคนี้จริงหรือไม่ ? 

จีนไม่ใช่แหล่งผลิตสินค้าต้นทุนต่ำที่สุดอีกต่อไป
จากรายงานของรายการ TV Bloomberg ระบุว่า ปัจจุบันนี้ มีประเทศอื่นๆ ที่มีราคาต้นทุนการผลิตต่ำกว่าในจีน เช่น อินโดนีเซีย อินเดีย เม็กซิโก และไทย ซึ่งประเทศจีนอยู่ในอันดับที่ 5 ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ตามด้วยไต้หวันเป็นอันดับ 6 ส่วนเป็นที่น่าแปลกใจ คือ บราซิลได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีต้นทุนการผลิตแพงที่สุด เนื่องจากค่าแรง อัตราแลกเปลี่ยน และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานฯ สำหรับต้นทุนการผลิตในสหรัฐอเมริกา และจีนนั้น แตกต่างกันเพียง 5% อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศจีนนั้นยังคงมีราคาถูกกว่าสินค้าที่ผลิตในยุโรปราว 10 – 20%

ผู้คนมักจะตั้งคำถามว่าทำไมการผลิตในประเทศจีนถึงมีราคาต้นทุนที่ต่ำกว่า หากลองมองอีกแง่มุมหนึ่ง ด้วยประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยีที่สูง มีระบบอัตโนมัติ ต้นทุนพลังงานต่ำ และตลาดในประเทศที่อุดมไปด้วยซัพพลายเชนอันดับ 1 ถือว่ายุติธรรมสำหรับผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีโรงงานหลายแห่งและผลิตสินค้าเป็นจำนวนมากทุกเดือน

สินค้าจีนกับการสร้างแบรนด์ Private Label
ผู้ค้าปลีกที่ผลิตตราสินค้าเฉพาะร้านค้านั้นๆ (Private Label หรือ House Brand) ซึ่งอาจเป็นการผลิตขึ้นโดยผู้ขายเอง หรือมีผู้ผลิตแบบ OEM ผลิตให้ และติดแบรนด์สินค้าของร้าน โดย Private Label ถือเป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) ถือกำเนิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่มองหาทางเลือก โดยเน้นความคุ้มค่าด้านราคา ซึ่งสินค้าตราห้างเหล่านี้มักจะมี รูปลักษณ์คล้ายสินค้าแบรนด์ดัง และมีโอกาสเติบโตสูง อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีก Private Label นิยมสั่งสินค้าที่ดีกว่าในจีน(Shippingจีน) เนื่องจากผู้ผลิตจีนสามารถสร้างแบรนด์และปรับแต่งผลิตภัณฑ์ได้ในราคาที่ต่ำกว่าซัพพลายเออร์อเมริกา

ทำไมการผลิตในประเทศจีนจึงมีต้นทุนต่ำ
ประการแรกคือต้นทุนแรงงานในประเทศจีนไม่สูงมากเหมือนในยุโรป เนื่องจากแรงงานจีนในต่างจังหวัด เข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่ และไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทนที่สูง

จีนผลิตสินค้าในปริมาณมากหรือเป็นตันทุกวัน ทำให้ราคาสินค้าถูก และแม้ว่าผู้ค้าปลีกจะสั่งผลิตตามแบบที่ต้องการ จีนยังคงผลิตทุกอย่างตามปริมาณการสั่งซื้อขั้นต่ำอยู่ดี ผู้ผลิตจีนบางรายอาจกำหนดปริมาณขั้นต่ำ (Minimum Order Quantity : MOQ) 10,000 ชิ้นหรือมากกว่านั้น ทำให้ราคาแตกต่างกันตามจำนวนการผลิต

การค้นหาวัตถุดิบแตกต่างจากประเทศอื่น เนื่องจากจีนมีโครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น วัตถุดิบของจีนจึงสามารถขนส่งได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด และราคาต่ำสุด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนจะไม่ใช่ประเทศที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำที่สุดอีกต่อไป แถมมีคู่แข่งที่สำคัญหลายรายในเอเชีย อาทิ เวียดนาม ไทย และแม้แต่สหรัฐอเมริกาเอง แต่ก็ถือว่าจีนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสินค้า Private Label อยู่ดี เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำ สามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็ว และคุณภาพดี ซึ่งเหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการขายสินค้าแบบมีแบรนด์ของตัวเอง

ทั้งนี้ ต้นทุนการผลิตในจีนกับสหรัฐอเมริกา อาจแตกต่างหรือเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับโรงงานและเงื่อนไขของผู้ผลิตเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นทำงานกับผู้ผลิตจีน(Shippingจีน) อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นขายสินค้าติดแบรนด์หรือ Private Label ซึ่งสามารถตั้งราคาได้สูงกว่าสินค้าไร้แบรนด์ และแน่นอนว่า ย่อมทำกำไรได้มากกว่าด้วย

อ้างอิงข้อมูล : https://sellernexus.com/manufacturing-cost-china

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *