1688 ในฐานะผู้ค้าปลีกที่ต้องทำการจัดส่งสินค้าไปยังผู้บริโภค ผู้ประกอบการย่อมอยากรู้ว่าบริษัทขนส่งใด ที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ ทั้งเรื่องความรวดเร็ว ความปลอดภัย และเรทราคาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ดี การทำความรู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับข้อเสนอของผู้ให้บริการขนส่ง จะช่วยให้ผู้ประกอบการเลือกได้ว่าบริษัทใดเหมาะสมกับธุรกิจ E-Commerce ของคุณมากที่สุด อาทิ หากคุณสั่งซื้อสินค้าจากจีนเป็นจำนวนมาผ่านแพลตฟอร์ม 1688 อาจเลือกใช้บริการนำเข้าสินค้าจากจีนกับบริษัทที่ขนส่งแบบถูกกฎหมายอย่าง Max Logistics เพื่อป้องกันความเสี่ยงและได้ลดหย่อนภาษีนำเข้า 0%
แต่สำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่ไม่ใช่ประเทศจีนนั้น มีแบรนด์สากลที่จัดได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการขนส่ง มีเครือข่ายกระจายสาขาอยู่ทั่วโลก และใช่ ! เป็นแบรนด์ที่ทำรายได้เฉลี่ยสูงสุด 1-3 อันดับแรกของโลกอีกด้วย นั่นคือ UPS, DHL และ FedEX วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักและเบื้องหลังที่ทำให้ทั้ง 3 บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จ
UPS (United Parcel Service)
เป็นบริษัทขนส่งพัสดุภัณฑ์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งก่อตั้งมานานที่สุดด้วยหรือเมื่อปี พ.ศ. 2450 ด้วยไอเดียของเด็กวัยรุ่น 2 คนคือ Claude Ryan วัย 18 และ Jim Casey วัย 19 ที่มองเห็นลู่ทางธุรกิจในขณะที่ยังไม่มีการใช้โทรศัพท์แพร่หลายอย่างทุกวันนี้ ทั้งคู่ก่อตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจส่งข้อความ ซึ่งมีทั้งการเดินหรือวิ่งไปส่ง รวมถึงการขับจักรยานไปส่งทางไกลด้วย
ในเวลาต่อมา UPS ได้หันมาทำธุรกิจรับจ้างขนส่งพัสดุภัณฑ์เมื่อปี 2496 ซึ่งกลายเป็นคู่แข่งของหน่วยงานไปรษณีย์สหรัฐฯ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ UPS มีเครือข่ายอยู่ใน 220 ประเทศทั่วโลก และมีการขนส่งสินค้ามากกว่า 5.2 พันล้านหีบห่อในปี 2561 หรือเฉลี่ยวันละ 21 ล้านชิ้น ที่สำคัญสามารถจัดส่งถึงผู้รับในเวลาเพียง 1 วัน เช่น หากจัดส่งในวันใดวันหนึ่งในพื้นที่ 48 มลรัฐของสหรัฐอเมริกา จะสามารถส่งถึงผู้รับได้ภายใน 10.30 น. ของวันรุ่งขึ้น
UPS ใช้ยานพาหนะที่เป็นเครื่องยนต์ในการขนส่งสินค้า 123,000 คัน และในปี พ.ศ. 2561 UPS ถูกโหวตให้เป็นอุตสาหกรรมขนส่งอันดับ 1 ของนิตยสาร Fortune 2018 ในประเภทของบริษัทที่น่ายกย่องมากที่สุดในโลก David Abney ประธานบริหารและ CEO ของ UPS ระบุว่า มีพนักงานทั่วโลกที่ทำงานกับ UPS เป็นจำนวน 481,000 คน แต่ส่วนใหญ่ 399,000 ทำงานอยู่นอกสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน UPS มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 71.9 พันล้านดอลล่าร์ กำไรสุทธิ 4.8 พันล้านดอลล่าร์ (ปี 2018 : ข้อมูลจาก https://www.statista.com/statistics/270108/ups-revenue-and-net-income/)
DHL (Dalsey, Hillblom & Lynn)
ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก DHL แบรนด์ขนส่งและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดย DHL เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยชาวอเมริกัน แต่ก็มีชาวเยอรมันอยู่ด้วย ชื่อของ DHL ก็มาจากตัวอักษรแรกของชื่อผู้ก่อตั้ง ได้แก่ Dalsey, Hillblom & Lynn นั่นเอง โดย DHL เริ่มก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2512 จากธุรกิจส่งเอกสารทางเครื่องบินจากเมืองซานฟรานซิสโกไปยังเมืองโฮโนลูลู จากนั้นเริ่มมีการดำเนินขั้นตอนการเดินพิธีศุลกากร ต่อมาจึงขยายธุรกิจไปยังขนส่งด่วนทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการขนส่งเอกสารและพัสดุทางเครื่องบิน ที่สำคัญเป็นแบรนด์เดียวที่ให้บริการขนส่งไปยังเกาหลีเหนือ
ปัจจุบัน DHL มีรายได้เฉลี่ย 68.88 พันล้านดอลล่าร์ (ปี 2018 : ข้อมูลจาก https://www.statista.com/statistics/316330/revenue-of-deutsche-post-dhl/)มีการขนส่งสินค้ามากกว่า 1.3 พันล้านชิ้น/ปี ดร.Frank Appel CEO คนปัจจุบันของ DHL และ Ken Allen หัวหน้าแผนก eCommerce Solution แห่ง DHL ระบุว่า มีจำนวนพนักงานขนส่ง 550,000 คน รวมทั้งพนักงานฝึกหัดด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า DHL จะเป็นตัวเลือกของการขนส่งระหว่างประเทศที่ดี แต่นั่นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักเมื่อต้องการขนส่งภายในสหรัฐอเมริกา เนื่องจาก DHL ไม่ใช่บริษัทอเมริกัน จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินภายในสนามบิน US. ได้ ปัจจุบัน DHL ให้บริการขนส่งครอบคลุมง ทั้งการขนส่งเอกสาร จดหมาย ตู้คอนเทนเนอร์ โดยประกอบไปด้วย 3 หน่วยงานหลัก คือ DHL Express, DHL Danzas Air & Ocean และ DHL Solutions
FedEx
บริษัทขนส่งสัญชาติอเมริกัน ที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 โดย Frederick W. Smith นายทหารเรือชาวอเมริกัน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา สิ่งที่ FedEx แตกต่างจากบริษัทขนส่งอีก 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง DHL กับ UPS คือ การมีเครื่องบินสำหรับขนส่งมากที่สุด ในยุคแรกๆ ของการก่อตั้งนั้น FedEx เป็นผู้บุกเบิกของการให้บริการจัดส่งข้ามคืน อีกทั้งสามารถติดตามพัสดุภัณฑ์และให้บริการอัพเดทแบบเรียลไทม์
FexEx ให้บริการขนส่งครบคลุม 220 ประเทศ มีพนักงานมากกว่า 425,000 คนทั่วโลก มียานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ 180,000 คัน และมีสินค้าที่ต้องส่งมอบต่อวันเป็นจำนวนมากกว่า 14 ล้านชิ้นต่อวัน โดยให้บริการตั้งแต่การจัดส่งเอกสารไปจนถึงสินค้าขนาดใหญ่ ทั้งทางบกและทางอากาศ โดยชื่อของ FedEx นั้น ก็เปลี่ยนจากชื่อเดิมของบริษัท Federal Express ปัจจุบัน FedEX มีรายได้เฉลี่ยต่อปี 65.5 พันล้านดอลล่าร์ กำไรสุทธิ 4.6 พันล้านดอลล่าร์ (ปี 2018 : ข้อมูลจาก https://www.commercialappeal.com/story/money/industries/logistics/2019/06/25/fedex-4-q-earnings-report-fedex-)
ข้อมูล : https://www.lateshipment.com/blog/overview-of-fedex-ups-and-dhl/